บทความ

ทิศทางของ เทรนด์ไลน์ ที่เกิดขึ้นในตลาด Forex
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

ทิศทางของ เทรนด์ไลน์ ที่เกิดขึ้นในตลาด Forex


เหล่านักเทรดเดอร์ที่ลงทุนในตลาด Forex ร้อยทั้งร้อย จะมีการวิเคราะห์การซื้อขายในตลาดแบบมองภาพรวม จากการดูทิศทางของ เทรนด์ไลน์ ( Trend Line ) หรือ เส้นแนวโน้มที่เกิดขึ้นภายในตลาด

 

เทรนด์ไลน์ คืออะไร?

 

เทรนด์ไลน์ ( Trend Line ) คือ เส้นแนวโน้มที่แสดงบนกราฟ ( Chart ) Forex เป็นเส้นที่บ่งบอกอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินที่เราเลือกเทรดที่มีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป โดยอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงิน จะถูกแสดงค่าอยู่ตามแกน Y ( แนวตั้ง ) ของกราฟ และเวลาการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยน จะถูกแสดงค่าอยู่ในแกน X ( แนวนอน ) ของกราฟ

 

ทิศทางของเทรนด์ไลน์

 

แผนภูมิที่ใช้แสดงเทรนด์ไลน์ของตลาด Forex มีหลายรูปแบบ แต่ที่นิยมใช้มากที่สุด คือ แผนภูมิเส้น แผ่นภูมิแท่ง และแผ่นภูมิแท่งเทียน ซึ่งแผนภูมิแต่ละรูปแบบสามารถดู เทรนด์ไลน์ หรือแนวโน้มของตลาด ได้เหมือนกัน โดยเทรนด์ไลน์ มีทั้งหมด 3 รูปแบบ ดังนี้

 

1. เทรนด์ขาขึ้น ( Up-Trend ) คือ เส้นแนวโน้มของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาสูงขึ้นเรื่อย ๆ

2. เทรนด์ขาลง ( Down-Trend ) คือ เส้นแนวโน้มของราคาที่มีการเปลี่ยนแปลงตามเวลาต่ำลงเรื่อย ๆ

3. ไซต์เวย์ ( Sideways ) คือ เส้นแนวโน้มของราคาที่มีทิศทางไม่แน่นอน ขึ้นลงสลับกันไปเรื่อย ๆ

 

การดูเทรนด์ไลน์ คือ การกำหนดจุดสมมติ 2 จุดของกราฟว่ามีการเปลี่ยนแปลงตามเวลา (จากซ้ายไปขวา) เป็นอย่างไร หากจุดที่เรากำหนดบนเส้นกราฟมีทิศทางพุ่งขึ้น หมายถึง ตลาด Forex มีทิศทางของเทรนด์เป็นขาขึ้น ( Up-Trend ) แต่ถ้าหากจุดที่เรากำหนดไว้ 2 จุดมีทิศทางลดลงจากจุด 1 มายังจุด 2 นั้นหมายถึง ตลาด Forex มีเทรนด์ขาลง ( Down-Trend ) นั่นเอง ซึ่งหากตลาดมีความผันผวนมาก กราฟจะมีทั้งขึ้นและลงสลับกันไป มีรูปแบบเส้นแนวโน้มแบบ ไซต์เวย์ ( Sideways )

 

ซึ่งการกำหนดจุดบนกราฟ นักเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ มักกำหนดโดยเปรียบเทียบจาก จุดต่ำสุดของกราฟ 2 จุดจาก 2 ช่วง หรือจุดสูงสุดของกราฟ 2 จุดจาก 2 ช่วง หรือไม่ก็ดู ทั้งจากจุดต่ำสุดและสูงสุด จะทำให้ได้เส้นแนวโน้ม(ที่เราสมมติขึ้น) จำนวน 2 เส้น ซึ่งหากกราฟทั้ง 2 เส้นนี้มีลักษณะไปในทิศทางเดียวกัน ก็ยิ่งทำให้ทราบถึงเทรนด์ได้ชัดเจนขึ้น

 

การเลือกลงทุนตามเทรนด์ไลน์

 

นักเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ มักจะเลือกเทรดในช่วงที่ตลาดมีเทรนด์ไลน์ที่ชัดเจน คือ เทรนด์ขาขึ้น และเทรนด์ขาลง และหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาด Forex เกิดแนวโน้มแบบ Sideway เนื่องจากมีทิศทางที่ไม่แน่นอน มีความผันผวนสูง ปริมาณในการซื้อขายต่ำ และคาดการณ์ทิศทางของราคาได้ยากอีกด้วย

 

หากเทรดเดอร์มีการเทรดโดยอิงตามการดูเทรนด์ไลน์ เทรดเดอร์ที่คิดว่าราคาคู่เงินที่เทรดอยู่น่าจะมี เทรนด์ขาขึ้น ก็จะทำการเปิด Order แบบซื้อ ( Buy ) แต่ถ้าคิดว่าคู่เงินที่เทรดอยู่นั้น จะมีแนวโน้มที่ลดลง หรือเป็นเทรนด์ขาลง ก็จะทำการเปิด Order แบบขาย ( Sell ) ซึ่งการเปิด Order ในรูปแบบนี้เรียกว่าเป็น "การเทรดแบบตามเทรนด์" แต่หากคิดว่า คู่เงินที่เทรดอยู่เป็นขาขึ้น แล้วเปิด Order แบบขาย หรือ เลือกเปิด Order แบบซื้อ เมื่อเทรนด์อยู่ในช่วงขาลง วิธีนี้จะเรียกว่า "การเทรดแบบสวนเทรนด์" โดยนักเทรดเดอร์ที่ทำการเทรดในรูปแบบนี้ จะถูกเรียกกันในวงการการลงทุน Forex ว่า “ชาวสวน”

 

การเทรดตามเทรนด์นั้น ไม่ได้เป็นสิ่งยืนยันได้ว่า การเปิด Order ซื้อขายของเรา จะมีผลตรงตามเช่นนั้นหรือไม่ เพราะราคาการเลกเปลี่ยนของตลาด Forex มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เรื่อย ๆ ในบางครั้ง การเทรดแบบสวนเทรนด์ ก็อาจทำให้นักเทรดเดอร์ได้กำไรได้ ซึ่งนักเทรดเดอร์มืออาชีพ มักจะเล่นกลยุทธนี้ในระยะสั้น แต่อย่างไรแล้ว การเทรดแบบตามเทรนด์ ก็มีความเสี่ยงที่น้อยกว่า และเหมาะสมหากต้องการเทรดแบบระยะยาว

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

ฟอเร็กซ์ ( Forex ) น่าลงทุนมากแค่ไหนในปี 2021

เริ่มต้น เป็น เทรดเดอร์ ( Trader ) ของ ตลาด Forex




เราเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลความรู้, ข้อมูล, ข่าวสารในตลาด Forex และต้องเน้นย้ำว่าตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง และไม่เหมาะสมกับทุกคน ควรมีการศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อน นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทั้งหมด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ

คำเตือนความเสี่ยง การลงทุน และการเก็งกำไรมีความเสี่ยง นักลงทุนและนักเก็งกำไร ควรเรียนรู้เพิ่มเติม และปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน ก่อนตัดสินใจลงทุนหรือเก็งกำไรใดๆการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น CFD มีความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุน และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกคน การซื้อขายบนตลาด Forex ดังกล่าวมีความเสี่ยง และคุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด เว็บไซต์ www.forex.com จึงขอเป็นผู้ให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ ว่าให้ความรู้ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ ทั้งบทความ และคลิปความรู้มากมาย