วันนี้เราจะพาคนที่สนใจเกี่ยวกับ forex ได้รู้ว่าทำไมตลาด forex มีลักษณะเด่นยังไง ทำไมคนถึงมาเล่นเยอะ และมีคู่เงินในตลาดยังไงบ้าง ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อมูลที่สำคัญด้วยเช่นกัน ซึ่งคนที่จะเข้ามาในตลาด forex ควรจะรู้จักไว้นะ มีประโยชน์มากๆ แน่นอน

ตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) มีคู่สกุลเงินที่เทรดมากที่สุด

มีคู่สกุลเงินหลักเจ็ดคู่ในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) ส่วนที่เหลือเป็นคู่เงินข้ามคู่และคู่เงินแปลกใหม่ ( Exotics ) ซึ่งมักจะซื้อ - ขายได้น้อยและมีสภาพคล่องน้อย

1. คู่สกุลเงินหลัก

คู่สกุลเงินหลัก เป็นคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุด คิดเป็นประมาณ 80% ของปริมาณการซื้อขายในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ )  โดยปกติคู่สกุลเงินเหล่านี้จะมีความผันผวนต่ำและมีสภาพคล่องสูง คู่สกุลเงินเหล่านี้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจที่มั่นคงและมีการจัดการที่ดี นอกจากนี้ยังจัดการได้ยากกว่าและมีสเปรดที่แคบกว่าคู่สกุลเงินอื่นๆ

2. คู่ครอส

ในอดีต คู่ข้ามจะถูกแปลงเป็น USD ก่อน ดังนั้นแปลงเป็นสกุลเงินในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) ที่ต้องการ แต่ตอนนี้มีบริการแลกเปลี่ยนโดยตรง คู่เงินที่มีการเทรดมากที่สุด คือ คู่เงินรอง ( เช่น EUR/GBP , EUR/JPY , GBP/JPY ) ซึ่งมักจะมีสภาพคล่องน้อยกว่าและมีความผันผวนมากกว่าคู่เงินหลัก

3. คู่กลุ่มประเทศตลาดใหม่ ( EXOTIC )

ตลาดใหม่อีกแห่ง เป็นสกุลเงินจากประเทศเกิดใหม่ หรือประเทศที่เล็กกว่า ที่จับคู่กับสกุลเงินหลัก เมื่อเทียบกับคู่ข้าม และคู่หลัก คู่ตลาดเกิดใหม่มีความเสี่ยงในการซื้อ – ขายสูงกว่ามาก เนื่องจากสภาพคล่องน้อยกว่า ผันผวนและควบคุมราคาได้ง่ายกว่าในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ )

เราสามารถสรุปลักษณะเด่นของตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) ได้ดังต่อไปนี้

เป็นตลาดในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) การเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เปิดซื้อ - ขายตลอด 24 ชั่วโมง ยกเว้นวันเสาร์ - อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ การซื้อ – ขาย เริ่มตั้งแต่เช้าเปิดตลาดในออสเตรเลีย เอเชีย ยุโรป และสิ้นสุดวันทำการของอเมริกา

มีสภาพคล่องสูง เพราะมีคนซื้อ - คนขายจำนวนมาก ทำให้ปริมาณการซื้อขายสูงมากเมื่อเทียบกับการลงทุนอื่น ๆ

ความเสี่ยงสูง เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยรอบข้างมาก นี่ถือเป็นโอกาสในการทำกำไรอย่างรวดเร็ว และในขณะเดียวกันก็อาจขาดทุนได้อย่างรวดเร็ว เช่นกัน

ทำกำไรได้ทั้งขาขึ้น และขาลงในคู่สกุลเงินเดียว นักลงทุนในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) สามารถเปิดสถานะซื้อ หรือขายก็ได้  โดยเปิดสถานะซื้อหากคาดว่าราคาจะสูงขึ้น และเปิดสถานะขายหากคาดว่าราคาจะลดลง

ลงทุนต่ำ แต่เลเวอเรจสามารถทำกำไรได้สูง แต่ในทางกลับกัน เลเวอเรจอาจทำให้ขาดทุนได้สูงมาก

ในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) มีค่าธรรมเนียมการซื้อ – ขายต่ำ เมื่อเทียบกับการลงทุนประเภทอื่น โบรกเกอร์หลายแห่งไม่คิดค่าธรรมเนียมการซื้อขาย แต่จะคิดส่วนต่างของราคาเสนอซื้อ - ขายแทน ซึ่งเรียกว่าสเปรด โดยคู่สกุลเงินที่มีการซื้อ - ขายมากที่สุดจะมีสเปรดที่เข้มงวดกว่า

การซื้อ – ขาย ในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) จะแสดงในคู่สกุลเงิน เช่น EUR/USD = 1.105965 หมายความว่า 1 ยูโรเท่ากับ 1.105965 ดอลลาร์สหรัฐ การซื้อ EUR/USD หมายถึงการซื้อ EUR และขาย USD และในทางกลับกัน การขาย EUR/ USD หมายถึงการซื้อ USD และขาย EUR ตัวอย่างของการซื้อ - ขายคู่สกุลเงินหลัก ได้แก่ EUR/USD, USD/CAD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, NZD/USD และ AUD/USD

เช่นเดียวกับการลงทุนในหุ้น เมื่อเทรดเดอร์ในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) เห็นแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของคู่สกุลเงิน ตัวอย่างเช่น หากคุณคาดการณ์ว่า EUR จะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับ USD นักลงทุนอาจขาย EUR/USD ที่ราคาปัจจุบัน หากการคาดการณ์ของเราถูกต้อง และราคา EUR/USD ลดลง เราสามารถทำกำไรได้โดยการปิดตำแหน่งสั้น ซึ่งกำไรจะเป็นส่วนต่างของราคา คูณด้วยจำนวนหน่วยที่ซื้อ

มาดูตัวอย่างในตลาด Forex ( ฟอเร็กซ์ ) กัน จากการคาดการณ์อัตราการว่างงานของสหรัฐ มีแนวโน้มลดลง ซึ่งหมายถึงความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจ ที่เพิ่มขึ้น น่าจะส่งผลให้เงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น เมื่อเทียบกับเงินยูโร กล่าวคือ EUR/USD มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง ดังนั้นเราจึงตัดสินใจเปิดสถานะขายใน EUR/USD ที่ราคาเสนอซื้อ 1.10288 สำหรับ 10,000 หน่วย ด้วยเลเวอเรจ 50:1 ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นคือ (1.10288 *10,000) / 50 = $220.576 (แทนที่จะเป็น $11,028.8) หากการคาดการณ์ถูกต้อง และ EUR/USD ตกลง เราสามารถปิดตำแหน่งได้ทันที ตัวอย่างเช่น ที่ราคาเสนอขาย 1.09052 ในตัวอย่างนี้ เราสามารถทำกำไรได้ (1.10280-1.09052)*10,000 = $122.8

อ่านบทความเพิ่มเติม

มาดูกัน ว่า ฟอเร็กซ์ ( forex ) นั้น ทำไม ถึงมีคนสนใจอย่างมากมาย

3 เทคนิค Forex สร้างกำไรด้วยตัวคุณเอง