ในแต่ละบริษัท ต่างก็มีข้อดี มาขายแก่ลูกค้า ในเมื่อการตัดสินใจของเรา มีผลต่อ เงิน ที่จะ ลงทุน เราจะสามารถ เลือก โบรกเกอร์ อย่างไร เลือก แบบไหน ที่จะทำให้ได้ กำไร ในการ ลงทุน เลือก อย่างไร ไม่ให้ผิดหวัง

      โบรกเกอร์ ( Broker ) เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า คนที่เป็น ตัวแทน ของเรา ในการทำการ ซื้อ ขาย ซึ่งเราสามารถเลือกได้เอง ผ่านบริษัทที่ได้รับใบอนุญาตประกอบ ธุรกิจ การเป็นนายหน้า ซื้อ ขาย หลักทรัพย์ ที่ได้ผ่านการพิจารณาตามหลักเกณฑ์ของ ตลาดหลักทรัพย์ และเข้าเป็น บริษัทสมาชิก ของ ตลาดหลักทรัพย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

     ทำให้สามารถส่งออกคำสั่ง ซื้อ ขาย หลักทรัพย์ เข้าสู่ระบบซื้อขาย ของ ตลาดหลักทรัพย์ ได้โดยตรง โบรกเกอร์ จึงไม่ไช่เป็นแค่คนกลางในการ ซื้อ ขาย หลักทรัพย์ แต่ โบรกเกอร์ จะต้องรับผิดชอบต่อหน้าที่ การบริการ แก่ ลูกค้า ทุกขั้นตอน ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นการเปิด บัญชี จนไปถึงการชำระ ราคา ส่งมอบ หลักทรัพย์ รวมทั้งให้คำปรึกษา แนะนำ และ แก้ไขปัญหา โบรกเกอร์ แต่ละแห่ง อาจให้บริการในรูปแบบที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับขนาด ธุรกิจ ความเชี่ยวชาญของบริษัทนั้นๆ

    ไหนจะต้องจ่ายเงินชำระคำซื้อ หุ้น นำ หุ้น ที่ซื้อมาส่งมอบ แจ้งถึงสิทธิที่จะได้รับจาก หุ้น ที่ถืออยู่ เงินปันผล การใช้สิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น เป็นหน้าที่ของผู้ลงทุน ที่จะเลือกคนที่ไว้ใจ ได้มาทำหน้าที่แทน ควรจะศึกษาข้อมูล และพิจารณา เลือก โบรกเกอร์ ที่สามารถให้บริการตอบสนองความ ต้องการของคุณได้ดีที่สุด เพราะ ไม่ง่ายที่จะเลือก

ทำไมต้อง เลือก โบรกเกอร์  ( Broker ) ฟอเร็กซ์

1. เป็นอิสระ เชื่อถือได้

2. ช่วยให้คุณเปรียบเทียบ โบรกเกอร์ ( Broker ) ดีที่สุดในไทย

3. สามารถ เลือก โบรกเกอร์ ( Broker ) ที่ตรงกับความต้องการ ไม่ให้ผิดหวัง

4. รู้สึกปลอดภัย เมื่อวาง เงิน กับ โบรกเกอร์ ( Broker )

โบรกเกอร์ ( Broker ) มีอะไรบ้าง

     โบรกเกอร์ ECN / STP ผู้ทำตลาด ( อาจจะมีทั้งสองรูปแบบ ) โบรกเกอร์ จำนวนมากมอบบริการ ECN / STP บนประเภทบัญชีที่ต้องการเงินฝากสูง และเป็นผู้ทำตลาด สำหรับบัญชี Cent และ Standard

เลือก โบรกเกอร์ ( Broker ) แบบไหนที่ว่าดี ไม่ให้ผิดหวัง

1.  ใจดี น่ารัก พี่เลี้ยงที่ดี

      ทำหน้าที่แนะนำ ตั้งแต่ไม่มีอะไร ไปถึงสามารถใช้เทคนิค หรือ จนกว่าจะมีความชำนาญ ในเรื่องการ ลงทุน ดังนั้น ไม่ต้องเกรงใจ สามารถสอบถามได้ตลอดกับผู้ให้บริการข้ อมูล และข่าวสาร ในฐานะ ผู้ลงทุน

2. การให้บริการแบบครบวงจร

    ผู้ลงทุน ระยะยาว ควรได้รับข้อมูล ในเรื่องของ วิเคราะห์แนวโน้มทางเศรษฐกิจ และ สังคม หรือ ภาวะต่างประเทศ ที่จะส่งผลกระทบธุรกิจในอนาคต  และสำหรับ หลักทรัพย์รายวัน ควรที่จะได้รับข้อมูล ทันต่อเหตุการณ์ รวดเร็ว วินาที่ ต่อ วินาที่ ไม่ว่าจะเป็น อัตราแลกเปลี่ยนเงินระหว่างประเทศ อัตราดอกเบี้ย สภาวะทางการเมือง ดัชนีราคาหุ้นตลาตหลักทรัพย์ ในต่างประเทศ โดย โบรกเกอร์ ( Broker ) จะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ทันต่อเหตุการณ์

3. สนองคำสั่งซื้อขายของเราได้อย่างรวดเร็ว และ ถูกต้อง

     ในเรื่องการให้บริการ จะต้องเอาชนะคู่แข่งให้ได้ หากสามารถซื้อใจลูกค้าได้ รับรองได้ว่า ลูกค้า จะหนีไปไหนได้  และ เป็นหนึ่งวิธีในการรักษา ลูกค้า  ที่สามารถเพิ่มมากขึ้นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นการทำการ ซื้อ ขาย หากเป็น ผู้ลงทุนระยะสั้น ซื้อขาย วันละหลายครั้ง ควรเลือก โบรกเกอร์ ที่มีเจ้าหน้าที่การตลาดเพียงพอ เพื่อจะได้ไม่ต้องรับคำสั่ง จากลูกค้าหลายรายเกินไป ไหนจะการสื่อสารทางโทรศัพท์ ในการ ซื้อ ขาย ด้วย

4. การเงินมั่นคง สร้างความน่าเชื่อถือ

    การพิจารณาฐานะความมั่นคงของ โบรกเกอร์ ( Broker ) จึงเป็นสิ่งจำเป็นโดยศึกษารายละเอียด จาก ข้อมูลผู้ถือหุ้นประวัติความเป็นมา ผลการดำเนินงานในอดีต และชื่อเสียงของทีมบริหาร

5. สิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย

     โบรกเกอร์ ( Broker ) ที่ดี ควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีประสิทธิภาพ โบรกเกอร์ ควรมี คอมพิวเตอร์ ในปริมาณที่มากพอ บริการด้านข้อมูลอัตโนมัติจากสำนักข่าว จอแสดงการวิเคราะห์ด้วยทฤษฎีต่างๆ ประกอบ โบรกเกอร์ ควรมีห้องค้าหลักทรัพย์ส่วนตัว

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

Forex VS หุ้น แบบไหนที่เหมาะสม กับนักลงทุน

ทำความรู้จักกับ ฟอเร็กซ์ ( Forex )