ความแตกต่างระหว่าง Forex VS หุ้น มาดูกันว่า แบบไหนที่เหมาะสมกับนักลงทุน ตัวไหนที่ทำกำไรใส่กระเป๋าได้มากกว่า ปัจจัยไหนที่เสี่ยงต่อการลงทุน และ วิธีใดบ้างที่เป็นตัวช่วยในการลงทุนให้ได้กำไรเพิ่มขึ้น

     Money Money ต้องมากพอ หรือจะต้องมีเงินสำรองสำหรับการเสียไว้บ้าง ดังนั้นการจะเสี่ยงกับอะไรก็ตาม ต้องวางแผนสำรองไว้ตลอด ไม่รีบลงทุนจนเกินไป ทำความเข้าใจอย่างละเอียด กำไรจะไปไหนได้

Forex ( ฟอเร็กซ์ ) และ หุ้น

Trick : คู่เงินที่นิยมเล่นกัน คือ EUR / USD, USD / JPY, GBP / USD,  AUD / USD

1. ปริมาณในการซื้อ

     การมีปริมาณในการซื้อมากขึ้น ส่งผลให้เทรดเดอร์ได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น มีการซื้อขายสูงขึ้น ดำเนินการสั่งซื้อง่าย สามารถปิดการขายได้ในราคาที่ต้องการ

2. สภาพคล่อง

     สภาพคล่องมากกว่าจุดกำหนดราคา ทำให้เทรดเดอร์ เข้า และออกได้ง่าย ยิ่งสเปรดแน่น สามารถลดต้นทุนการทำธุรกรรม ซึ่งในตัวสกุลของ Forex ( ฟอเร็กซ์ ) มีเทรดที่ต่ำ และต้นทุนต่ำ เมื่อเปรียบเทียบกับ หุ้น

3. เวลาซื้อขาย

     ตลาด forex ( ฟอเร็กซ์ ) เปิดให้มีการทำรายการธุรกกรม ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้ทุกที่ ทั่วมุมโลก ซึ่งดำเนินการผ่านธนาคาร 5 / สัปดาห์ เมื่อเทียบกับ หุ้น การให้บริการน้อยกว่า เพราะ หุ้น เล่นกัน แค่ 4 - 8 ชั่วโมง / วัน

4. ค่าคอมมิชชั่น

     โบรกเกอร์ของ forex ( ฟอเร็กซ์ ) ส่วนมากไม่มีค่าคอมมิชชั่น เพราะทำกำไรได้จากสเปรด ซึ่งค่าของสเปรด ค่อนข้าง โปร่งใส ตรวจสอบได้ เมื่อเทียบกับการซื้อขายประเภทอื่น

5. การโฟกัสแคบ และ โฟกัสกว้าง

     คู่สกุล 8 คู่ ข้างต้น เพราะจะเห็นถึงการขึ้นลงตลอดเวลา ต่างจากหุ้น ที่โฟกัสยากกว่า

เราเทรดเดอร์แบบไหนดี ระหว่าง forex ( ฟอเร็กซ์ ) กับ เทรดเดอร์ หุ้น

     เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย ระหว่าง Forex ( ฟอเร็กซ์ ) และ หุ้น ต่างกันราวฟ้ากับเหว อยู่ที่เราว่า จะเลือกเล่น เลือกลงเงินกับแบบไหน แต่สิ่งที่สำคัญ คือ การทำความเข้าใจในการเล่นให้ถูกต้อง อัตราเสี่ยงน้อยลง ดังนั้น ไม่ว่าจะเลือก forex ( ฟอเร็กซ์ ) หรือ หุ้น ก็ตามนั้น เลือกลงทุนแล้ว เรามีกำลังในการดูแลต่อในเรื่องของการลงทุนหรือไม่ หากไม่พร้อมควรปรึกษาผู้ที่เชี่ยวชาญ อย่าเพิ่งไปลงเอง คิดเอง คนเเดียว โอกาสเสียสูงมาก อีกทั้งอาจทำให้ติดลบได้

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่

อยากจะหาโบรกเกอร์Forexที่ดีต้องดูตรงไหน

ข้อผิดพลาดที่ควรเลี่ยงกับการ เทรด