บทความ

วิเคราะห์สถานการณ์ใน ตลาด Forex ด้วย ปฏิทินเศรษฐกิจ
Share: facebook_share line_share twitter_share messenger_share

วิเคราะห์สถานการณ์ใน ตลาด Forex ด้วย ปฏิทินเศรษฐกิจ


การลงทุนในตลาด Forex ที่ดี เทรดเดอร์ ควรทราบถึง สถานการณ์ต่าง ๆ ทางเศรษฐกิจ ที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งสามารถเช็คได้จาก ปฏิทินเศรษฐกิจ ( Economic Calendar ) เพื่อใช้เป็นปัจจัยอย่างหนึ่ง ในการซื้อ-ขายในตลาด Forex อย่างรอบคอบได้

 

ถึงแม้ว่า การลงทุนในตลาด Forex จะมีความเสี่ยงต่อ นักลงทุนอย่าง เทรดเดอร์ แต่หากคุณศึกษา และทำความเข้าใจ เกี่ยวกับ ตลาดนี้ได้เป็นอย่างดี ก็ช่วยลดความเสี่ยงในการลงทุน และอาจทำให้คุณสามารถ ทำกำไรจากการเทรด คู่สกุลเงิน ในตลาด Forex ได้ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงในตลาด Forex ที่มีผลต่อมูลค่าของ สกุลเงินต่าง ๆ ล้วนมีผลมาจาก กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ของประเทศ ที่เราเลือกซื้อ-ขาย คู่สกุลเงินของประเทศนั้น ๆ  ซึ่งเทรดเดอร์ สามารถทราบ กิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ของประเทศชั้นนำทั่วโลกได้จาก “ปฏิทินทางเศรษฐกิจ”

 

ปฏิทินเศรษฐกิจ คืออะไร?

 

ปฏิทินเศรษฐกิจ ( Economic Calendar ) เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเกาะติดข้อมูลทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ซึ่งมีผลกระทบต่อตลาดการเงิน รวมถึง ตลาด FOREX โดยปฏิทินเศรษฐกิจ จะรายงานเศรษฐกิจในระดับมหภาค  ที่เป็นเศรษฐกิจในระดับภูมิภาค ประเทศ และระดับโลก เช่น รายได้ประชาชาติ ผลผลิต การบริโภค การว่างงาน เงินเฟ้อ อัตราดอกเบี้ย การออม  การลงทุน การค้าระหว่างประเทศ การเงินระหว่างประเทศ เป็นต้น

 

เทรดเดอร์ (Trader) ส่วนใหญ่ จึงมักใช้ปฏิทินเศรษฐกิจ ในการวิเคราะห์การเทรดรายวัน เนื่องจาก ปฏิทินเศรษฐกิจ ได้รวบรวมตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ ไว้ภายในปฏิทิน รวมไปถึง การคาดการณ์ในอนาคต ทำให้เทรดเดอร์ สามารถหาข้อมูลทางเศรษฐกิจ ได้อย่างครบถ้วน และประหยัดเวลาในการหาข้อมูล เพื่อเทรดรายวัน ซึ่ง ดัชนีทางเศรษฐกิจยอดนิยม ที่อาจพบได้ใน ปฏิทินเศรษฐกิจ มีดังต่อไปนี้

 

  • ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ ( GDP ) : เป็นหนึ่งในเครื่องมือทางเศรษฐกิจที่ใช้ในการวัดการเจริญเติบโตของประเทศ โดยมีองค์ประกอบหลักมาจาก 5 ส่วน คือ การบริโภค การลงทุน การใช้จ่าย หรือการลงทุนจากภาครัฐ การส่งออก (Export) และการนำเข้า โดยคิดมูลค่าของตลาดสินค้าและบริหารขั้นสุดท้าย ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ภายในระยะเวลาหนึ่ง

 

  • อัตราการว่างงาน ( Unemployment Rate ) : ร้อยละของ กำลังแรงงานที่ไม่มีงานทำ หรือผู้ว่างงาน ต่อกำลังแรงงานทั้งหมด ของประเทศนั้น ๆ  ซึ่งกำลังแรงงาน วัดจากผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16  ปีขึ้นไป ที่มีความพร้อมและต้องการทำงาน โดยข้อมูลนี้สามารถบ่งบอกได้ถึงสภาวะของตลาดแรงงานและรายได้ของครัวเรือน ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่มีความสัมพันธ์กับสภาวะของเศรษฐกิจในประเทศนั้น ๆ

 

  • ดุลการค้า ( Balance Of Trade ) : ถึงแม้ว่า ดุลการค้า อย่างการนำเข้า หรือส่งออกของประเทศ จะรวมอยู่ใน ผลิตภัณฑ์มวลรวมประเทศ ( GDP ) แล้ว แต่ปฏิทินทางเศรษฐกิจ มักมีการแยก ดัชนีนี้ออกมาด้วย ซึ่งดุลการค้า มีด้วยกัน 3 รูปแบบ ในกรณีที่การนำเข้ามากกว่าการส่งออก แสดงว่า ขาดดุลการค้า แต่ถ้าประเทศมี การส่งออกมากกว่า การนำเข้า แสดงว่า เกินดุลการค้า และถ้าส่งออกและนำเข้าเท่ากันเรียกว่า สมดุลการค้า  ซึ่งดุจการค้า สามารถบ่งบอกได้ถึง สภาวะเงินเฟ้อ และเงินฝืดได้

 

  • ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) : ดัชนี้ที่ใช้วัดการเปลี่ยนแปลงราคาสินค้า หรือบริการต่าง ๆ ที่ผู้ผลิตได้ผลิตออกจำหน่าย ณ แหล่งผลิตในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยเปรียบเทียบกับ ราคาสินค้าชนิดเดียวกัน ในปีฐาน ซึ่งเป็นดัชนีที่สำคัญ ที่บ่งชี้ถึงภาวะเงินเฟ้อ ของราคาผู้บริโภค ซึ่งคิดเป็น ส่วนหลักของ ภาวะเงินเฟ้อ โดยรวมของประเทศได้

 

  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) : ดัชนีที่ใช้วัด การเปลี่ยนแปลงของ ราคาสินค้า และบริการต่างๆ ที่ผู้บริโภค นิยมซื้อเป็นประจำ กว่า 200 รายการ ซึ่งมักถูกนำไปใช้ใน การปรับปรุงค่าจ้าง และเงินเดือน ให้สอดคล้องกับราคาสินค้า และบริการที่เพิ่มขึ้นได้ จึงถูกใช้เป็น ตัววัดอัตราเงินเฟ้อได้

 

  • ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อขาย (PMI) : เป็นตัวชี้วัดแนวโน้มของ กิจกรรมทางเศรษฐกิจในอนาคต ที่เกิดจากการสำรวจของ ผู้ประกอบการเอกชน ที่จัดสำรวจให้กลุ่มประเทศของตนเอง และในระดับโลก ดัชนี้มี 5 ตัวแปรที่เกี่ยวข้อง คือ คำสั่งซื้อใหม่ ผลผลิต การจ้างงาน สินค้าคงคลังวัตถุดิบ และเวลาขนส่งวัตถุดิบ โดยมักมีการรายงาน ดัชนีนี้เป็นประจำทุกเดือน

 

ดัชนีเหล่านี้ ถือได้ว่าเป็น กิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่มักมีการรายงานอยู่ใน ปฏิทินเศรษฐกิจ ที่เหล่าเทรดเดอร์ หรือผู้สนใจ สามารถเข้าไปเช็ค กิจกรรมทางเศรษฐกิจของแต่ละประเทศทั่วโลกได้ ตามเว็บไซต์การลงทุน ที่มีเครื่องมือ ปฏิทินเศรษฐกิจ ให้บริการอยู่

 

 

อ่านบทความเพิ่มเติม

รูปแบบของ แนวโน้ม ที่เกิดขึ้นได้ในตลาด Forex

5 เรื่องที่นักเทรด มือใหม่ จำเป็นต้องรู้




เราเป็นเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลความรู้, ข้อมูล, ข่าวสารในตลาด Forex และต้องเน้นย้ำว่าตลาด Forex มีความเสี่ยงสูง และไม่เหมาะสมกับทุกคน ควรมีการศึกษาข้อมูลให้เข้าใจก่อน นักลงทุนอาจสูญเสียเงินทั้งหมด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยงเสมอ

คำเตือนความเสี่ยง การลงทุน และการเก็งกำไรมีความเสี่ยง นักลงทุนและนักเก็งกำไร ควรเรียนรู้เพิ่มเติม และปรึกษาที่ปรึกษาทางการเงิน ก่อนตัดสินใจลงทุนหรือเก็งกำไรใดๆการซื้อขายผลิตภัณฑ์ที่มีเลเวอเรจ เช่น CFD มีความเสี่ยงสูงที่จะขาดทุน และอาจไม่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนทุกคน การซื้อขายบนตลาด Forex ดังกล่าวมีความเสี่ยง และคุณอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด เว็บไซต์ www.forex.com จึงขอเป็นผู้ให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจ ว่าให้ความรู้ และคำแนะนำที่เป็นประโยชน์แก่ผู้ที่สนใจ ทั้งบทความ และคลิปความรู้มากมาย